how to use ยาควรใช้อย่างไร

หนึ่งในตัวช่วยที่ดีในการแก้ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศนั้นก็คือ ยา เพราะมีฤทธิ์ช่วยในการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ เป็นยาที่ทำขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับกลุ่มคนที่กำลังประสบปัญหาในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งยานั้น ไม่ใช่ยาปลุกเซ็กส์ และไม่ใช่ยาที่ทำให้มีอารมณ์ทางเพศได้ ทำให้หลายคนเกิดความเข้าใจผิดและซื้อยามากิน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยาจะแก้ปัญหาในเรื่องของช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้เท่านั้น เพราะฉะนั้น ก่อนจะใช้ยาก็ต้องมีการศึกษาข้อมูลในการใช้เสียก่อน how to use ? ยาควรใช้อย่างไร เพื่อความปลอดภัยของเรา มาศึกษาในเรื่องนี้กัน

การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คืออะไร

อาการการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) หรือ ED เป็นภาวะที่อวัยวะเพศชายเกิดการอ่อนตัวลง และไม่สามารถแข็งตัวได้ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ เป็นอาการที่เกิดในผู้ชายได้ทุกวัย และมีปัจจัยต่าง ๆ ร่วมด้วย เช่น อายุ โรคประจำตัว หรือสภาวะจิตใจ เป็นต้น ทำให้มีการเอายามาช่วยรักษาและแก้ปัญหานี้ ส่วนวิธีการใช้ how to use ? จะมีอะไรบ้าง ในบทความนี้จะมีมาบอกกัน

อาการของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

อาการที่เข้าข่ายของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศนั้น สามารถแบ่งตามระดับความรุนแรงของอาการได้ ดังนี้

- หย่อนสมรรถภาพทางเพศในระดับต่ำ อวัยวะเพศจะสามารถแข็งตัวได้พอดีสำหรับการมีเพศสัมพันธ์เกือบทุกครั้ง อาจจะมีแค่บางครั้งเท่านั้นที่ประสบปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว

- หย่อนสมรรถภาพทางเพศในระดับปานกลาง อวัยวะเพศจะสามารถแข็งตัวได้ดีสำหรับการมีเพศสัมพันธ์แค่บางครั้ง โดยส่วนมากจะไม่สามารถแข็งตัวได้

- หย่อนสมรรถภาพทางเพศในระดับรุนแรง เป็นภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้เลยในการจะมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง

ซึ่งหากสังเกตตนเองแล้วพบว่า มีอาการดังกล่าวในระหว่างที่กำลังจะมีเพศสัมพันธ์ นั่นแปลว่าคุณกำลังประสบกับปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และหากมีอาการทั้ง 3 ระดับนี้เป็นระยะเวลานานเกิน 2 เดือน หรือเกิดขึ้นบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาสาเหตุและวิธีในการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศให้กลับมาดีขึ้นได้

อวัยวะเพศชาย แข็งตัวได้อย่างไร

ในคนที่มีสภาวะปกติ ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เมื่อมีสิ่งเร้าไปกระตุ้นสมองให้ส่งสัญญาณไปที่เส้นประสาทของอวัยวะเพศ จะทำให้อวัยวะเพศชายขยายใหญ่ขึ้น และการขยายตัวนี้ก็จะไปกดเส้นเลือดดำทำให้เลือดไหลออกจากอวัยวะเพศชายได้น้อย จึงทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว แต่หากว่ามีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เส้นประสาทจะไม่สามารถรับสารจากสมองได้ ทำให้เลือดไม่ไหลเวียน อวัยวะก็จะไม่สามารถแข็งตัวได้ การใช้ จึงช่วยผ่อนคลายผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนเข้าไปในบริเวณของอวัยวะเพศชายได้ดีขึ้น และเกิดการแข็งตัวขึ้นนั่นเอง

ยา ช่วยเรื่องอะไร

() เป็นยาที่ไปขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศ ทำให้อวัยวะเพศมีการขยายตัวขึ้น ช่วยรักษาอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัวให้แข็งตัวได้ดี ไม่อ่อนตัวลงขณะกำลังมีเพศสัมพันธ์ เป็นยาที่มีไว้สำหรับผู้ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทาง เพศ ซึ่งการทำงานของยา จะไปกระตุ้นหลอดเลือดให้ขยาย และทำให้อวัยวะแข็งตัวขึ้น เพราะผู้มีที่ปัญหาด้านสมรรถภาพทางเพศนั้น อวัยวะเพศจะไม่สามารถแข็งตัวได้เอง ซึ่งอาจเป็นปัญหาจากทางร่างกายหรือจิตใจ

how to use ? ยาควรใช้อย่างไร

ยา เป็นยาที่รู้จักกันแพร่หลาย และนิยมใช้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นยาที่ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้กับผู้ชายได้ ซึ่งจะช่วยแค่ในเรื่องนี้เท่านั้น ไม่ได้ช่วยให้มีอารมณ์ทางเพศเพิ่มขึ้น หรือไม่ได้ช่วยให้อึดทนนาน ซึ่งวิธีการใช้ยาที่ถูกต้องและได้ผล มีดังนี้

1. ควรกินยาก่อนจะมีกิจกรรมทางเพศประมาณ 45-60 นาที หรือส่วนมากจะกินก่อน 1 ชั่วโมง

2. กินยาหลังมื้ออาหารประมาณ 1-2 ชั่วโมง ยาจะดูดซึมดีที่สุด และควรดื่มน้ำตามมาก ๆ ถ้าเป็นน้ำอุ่นจะช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้เร็วยิ่งขึ้น

3. ปริมาณยาที่ควรใช้

- 100 มิลลิกรัม สำหรับผู้ชายที่มีสุขภาพแข็งแรง และยังอายุไม่มาก ไม่เกิน 60 ปี

- 50 มิลลิกรัม สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ เป็นต้น และผู้ใช้กลุ่มนี้จะต้องใช้ยาอย่างระมัดระวัง และใช้ยาตามแพทย์สั่งเท่านั้น

- 25 มิลลิกรัม สำหรับผู้ที่มีภาวะตับทำงานผิดปกติ ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

4. ห้ามใช้ยาร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติดชนิดต่าง ๆ

5. ห้ามใช้ยาร่วมกับยากลุ่มไนเตรต ยาที่ใช้รักษาเกี่ยวกับโรคระบบหัวใจ และระบบหมุนเวียนเลือด เพราะมีผลทำให้ความดันเลือดลดต่ำลงมาก จนทำให้อาจเกิดอาการช็อคและเสียชีวิตได้ จึงเป็นอันตรายอย่างมาก

6. ห้ามใช้ยาร่วมกับยาไซเมทิดีน ที่เป็นยารักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร เพราะตัวยาจะไปทำให้ความเข้มข้นของกระแสเลือดเพิ่มขึ้น เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

7. ห้ามใช้ยาร่วมกับยาปฏิชีวนะชนิดอื่น ๆ เช่น ยาฆ่าเชื้อ ยาต้านเชื้อรา เป็นต้น เพราะจะทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ และเป็นอันตรายต่อชีวิต

ยา จะเหมาะกับบุคคลบางประเภทเท่านั้น เพราะไม่ใช่ยาที่ใช้กันได้ทั่วไปโดยเฉพาะในเด็กและผู้หญิง เพราะเป็นยาสำหรับผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศเท่านั้น แม้แต่ผู้หญิงเองก็ไม่ควรใช้ เพราะจะไม่ออกฤทธิ์กับกลไกการทำงานของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงด้วย

นอกจากเราจะรู้ถึง how to use ? วิธีการใช้ยาแล้วนั้น ต้องรู้ด้วยว่ายาทุกประเภท เมื่อใช้แล้วจะมีผลข้างเคียงเสมอ แต่อาการของแต่ละคนจะมากหรือน้อยก็แล้วแต่บุคคล เพราะฉะนั้น การกินยาเพื่อรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้น เพื่อความปลอดภัยควรอยู่ในความควบคุมและดูแลของแพทย์จะดีที่สุด ซึ่งแพทย์จะเป็นคนประเมินให้เองว่า อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศของคุณนั้นอยู่ในระดับใด และควรใช้วิธีการรักษาด้วยยาประเภทไหน รวมไปถึงปริมาณในการกินที่เหมาะสมด้วย เพราะยา จะออกฤทธิ์ดีเมื่อกินตามปริมาณที่ควรจะเป็น ไม่ได้แปลว่าต้องการได้ผลดีก็ควรกินเยอะ ๆ เพราะยิ่งกินมากเกินไป ยิ่งส่งผลให้เกิดอันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ด้วย

ข้อแนะนำในการใช้ยา

หลังจากที่ได้กินยาเข้าไปแล้วนั้น เมื่อยาออกฤทธิ์และคุณได้ทำกิจกรรมทางเพศเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้สังเกตอาการของตนเองด้วยว่า มีอาการข้างเคียงอื่น ๆ เกิดขึ้นหรือไม่ เช่น มีอาการปวดศีรษะมาก มีอาการร้อนวูบวาบ หน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว มองเห็นเป็นสีฟ้า สีเขียว หรืออวัยวะเพศแข็งตัวนานจนเกินไปและไม่ยอมอ่อนตัวลง ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ถือว่าเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยา ซึ่งอาการบางอย่างจะสามารถหายไปเองได้หลังจากมีอาการประมาณ 1-2 ชั่วโมง แต่หากอาการดังกล่าว โดยเฉพาะอวัยวะเพศแข็งค้าง ใช้เวลานานก็ยังไม่หายหรือไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ และควรหยุดการใช้ยาไปเลยเพื่อความปลอดภัย ที่สำคัญไม่ควรใช้ยาเกินขนาด เพราะจะเป็นข้อเสียและเป็นอันตรายเช่นเดียวกัน

การใช้ยานั้น แม้ว่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ชายที่กำลังประสบปัญหาในเรื่องสมรรถภาพทางเพศถดถอยลง ให้กลับมามีชีวิตชีวาได้นั้น แต่ก็มีข้อบ่งชี้และข้อควรระวังมากมายที่ผู้ใช้ควรศึกษาให้ดีก่อนกิน โดยเฉพาะเรื่องของวิธีการกิน หรือ how to use ? ดังที่กล่าวไป เพราะยามีผลข้างเคียงมากมาย และมีข้อห้ามในการกินหลายอย่าง ไม่ใช่ยาที่จะกินได้ทันทีโดยไม่ศึกษาก่อน เพราะนอกจากจะทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่อย่างที่ต้องการแล้ว อาจทำให้การใช้ยาไม่มีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดอันตรายอื่น ๆ จากผลข้างเคียงหรือการแพ้ยาได้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น เพื่อความปลอดภัย ลองอ่านบทความนี้ให้เข้าใจก่อนที่จะตัดสินใจใช้ เพื่อที่จะได้ไม่มีผลเสียต่อสุขภาพตามมา